14 ม.ค. 2554

บทสนทนาการต่อรองราคา

How much do you want to pay?
ประโยคนี้แปลว่า คุณต้องการจ่ายเงินสักเท่าไหร่ ใช้ได้หลังจากที่เขาปฏิเสธราคาแรกที่คุณเรียก เช่น
ลูกค้า : How much is this?
คุณ    : 100 Baht.
ลูกค้า : Oh! That's too much!
คุณ    : How much do you want to pay?
ลูกค้า : How about 60 Baht?
วิธีถามอย่างเดียวกันนี้ที่ฟังสุภาพมาก คือ How much would you like to pay?

I won't make any profit. ความหมายคือ ฉันจะไม่ได้กำไรเลยหรือจะใช้ I won't make a profit.ก็ได้
โดยใช้ a แทน any ประโยคนี้ใช้เพื่อ อธิบายว่าราคาที่เขาต่อรองนั้นต่ำเกินไปจนไม่ได้กำไรเลย

That's my best price.ความหมายคือ นั่นคือราคาสุดท้าย
ถ้าพูดอย่างนี้ฝรั่งรู้ทันทีว่านี่คือราคาสุดท้าย
อีกวิธีที่พูดได้คือ That's my final offer.

You won't find a better price. ความหมายคือ
คุณหาซื้อที่ถูกกว่านี้ไม่ได้แน่ คำว่า  better price หมายถึง ราคาที่ดีกว่า หรือพูดว่า You won't find a cheaper price.ซึ่ง cheaper price  หมายถึง ราคาที่ถูกกว่า
You won't find a better price around here.
แถวนี้คุณจะหาราคาดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว

13 ม.ค. 2554

คำสนทนาเกี่ยวกับการต่อรองราคา

การต่อรองราคาภาษาอังกฤษเรียกว่า bargain ออกเสียงว่า บา-กึน คำเดียวกับที่แปลว่าราคาดีหรือราคาถูกแต่ในที่นี้ bargain เมื่อเป็นคำกริยา หมายถึง การต่อรองราคา เช่น
Thai vender expect you to bargain.
แม่ค้าชาวไทยคาดว่าคุณจะต่อรองราคา
I tried to bargain down the price but the seller refused.
ผมพยายามต่อรองราคาแต่แม่ค้าไม่ยอม

คำนามของ bargain คือ bargaining เช่น
I always try to do some bargaining when I go to Chatuchak.
ทุกครั้งที่ไปจตุจักรผมมักพยายามทำการต่อรองราคา
Did you do any bargaining When you were in Thailand?
คุณได้ต่อรองราคาบ้างไหม เวลาคุณอยู่เมืองไทย

มีประโยคคำพูดหลากหลายที่ลูกค้าสามารถเสนอราคาเพื่อต่อรอง โดยสรุปเขาน่าจะพูดว่า
I'll give you 100 Baht.
I'll give you 100 Baht for it.
How about 100 Baht?
What about 100 Baht?
Will you take 100 Baht for it?
Will you take 100 Baht?
Will you accept 100 Baht for it?
Will you accept 100 Baht?
หนังสือท่องเที่ยวหลายเล่มมีข้อแนะนำว่า
ถ้า แม่ค้าตั้งราคาที่ 100 บาท ให้ต่อเหลือ 60 บาท

นั่นเป็นราคาที่ต่ำเกินไป (ถ้าคุณต้องการสัก 80 บาท)
วิธีปฏิเสธราคาที่ต่ำนั้นไม่ยากครับ พูดว่า
I'm sorry. I cannot.
I can't go any lower. ความหมายคือขอโทษนะคะ ฉันให้ราคานั้นไม่ได้
That price is too low. ความหมายคือ
ราคานั้นต่ำเกินไป
หลังจากนั้นก็เสนอราคาใหม่ เช่น
What about 180 Baht?
How about 180 Baht?
ถ้าไม่อยากพูดให้ยืดยาวก็บอกราคาไปอย่างเดียวก็พอเช่น
ลูกค้า :  How much for this?
คุณ    :  100 Baht.
ลุกค้า :  Oh! That's too much! I'll give you 50 Baht.
คุณ    :  I'm sorry. I can't go that low.
            What about 90 Baht?
ลูกค้า :   Sorry. How about  60 Baht?
คุณ    :  80 Baht.
ลูกค้า :  75 Baht.
คุณ    :Okay!
แค่นี้เองครับ  เดี๋ยวมาต่อโพสหน้าครับ การต่อรองราคายังมีอีกนะครับ

12 ม.ค. 2554

การใช้ drop the price,mark down,cut down

ถ้าคุณใช้คำว่า drop the price นั่นก็คือ ลดราคา เหมือนกันเช่น
I can drop the price another 10 per cent.
ฉันสามารถลดราคาลง อีก 10 เปอร์เซ็นต์
I can't drop the price any more.
ฉันไม่สามารถลดราคาได้มากกว่านี้
If you buy today,I can drop the price for you.
ถ้าคุณซื้อวันนี้ ฉันก็ลดราคาให้คุณได้

mark down, cut down
mark down หมายถึง เขียนราคาให้ลดลง,กำหนดราคาให้ลดลง หรือ ลดราคาลงนั่นเอง เช่น
We have marked down the price to 300 Baht.
เราได้ลดราคาลงถึง 300 บาท
Everything is marked down 50 per cent.
ทุกอย่างลดราคา 50 เปอร์เซ็นต์

หรืออาจใช้คำว่า cut ที่แปลว่า ตัด เพื่ออธิบายว่าตัดราคาลง หรือ ลดราคาลง เช่น
We have cut the price on all item.
เราได้ลดราคาสินค้าทุกชนิด

แต่ถ้าคุณคิดจะอธิบายว่า ไม่ลดแค่ธรรมดา แต่ลดกระหน่ำ ลดแบบถล่มทลาย ฝรั่งอาจใช้คำว่า slash ซึ่งปกติใช้กับมีดโดยมีความหมายว่า  เฉือน แต่เมื่อใช้ในเชิงสำนวนจะมีความหมายว่า ลดมาก ตัดราคา เช่น
We have slashed the price on everything!
สินค้าทุกชนิดลดกระหน่ำ
All items have been slashed!
สินค้าทุกชนิดลดราคาลงแบบถล่มทลาย
คงมีเท่านี้ครับที่ชาวต่างชาติใช้อธิบายว่าสินค้าลดราคามากที่สุด

11 ม.ค. 2554

การใช้ off และ reduce

คำว่า off มีความหมายหลายอย่าง แต่ในที่นี้ ขอพูดถึงที่แปลว่า ลดราคา นะครับ
10 per cent off
วลีนี้หมายถึง ลดราคา 10 เปอร์เซ็นต์ มาดูประโยคเต็มครับ
This shirt is  10 per cent off.
ความหมายคือเสื้อเชิ้ตตัวนี้ลดได้ 10 เปอร์เซ็นต์ คุณสามารถอธิบายทุกอย่างที่คุณขายว่า is หรือ
are 10 per cent off ได้ครับ เพียงแต่ต้องวาง off ไว้หลังคำว่าเปอร์เซ็นต์ครับ เช่น
We have a sale on earring-30 per cent off all items.
เรามีการลดราคาต่างหู 30 per cent ทุกชิ้น
I'll take another 10 per cent off if you buy two.
ผมจะลดให้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ถ้าคุณซื้อ 2 ชิ้น
ประโยคเมื่อกี้นี้ ที่จริงแล้วเป็นการใช้ take off ซึ่งมีความหมายว่า ลดราคา คุณสามารถใช้คำนี้ได้เลย
I can take off 10 per cent.  มีความหมายเดียวกับ
I can discount 10 per cent.
ฉันลดอีก 10 เปอร์เซ็นต์ได้เลย

อีกคำหนึ่งที่น่าใช้คือคำว่า reduce แปลว่า ลดลง ใช้ได้หลายลักษณะรวมถึง ราคาครับ
I can reduce the price by 10 per cent.
ฉันสามารถลดราคาได้อีก 10 เปอร์เซ็นต์
I can't reduce this any more.
ฉันไม่สามารถลดราคาได้มากกว่านี้อีกแล้ว

ลูกค้าอาจจะถามว่า
Can you reduce this for me?
คุณลดราคาให้ฉันได้ไหม
ชาวต่างชาติมีวิธีอธิบายว่าลด 40 เปอร์เซ็นต์ นั่นคือ reduced by 40 per cent เช่น
This shirt is reduced by 40 per cent. หรือ This shirt has been reduced by 40 per cent.
ความหมายคือ เสื้อเชิ้ตตัวนี้ลดเหลือ 40 เปอร์เซ็นต์
สังเกตได้ว่า take off กับ reduced มีความหมายแทบจะเหมือนกันครับ

10 ม.ค. 2554

คำว่า discount

discount สามารถเป็นกริยาได้ ซึ่งมีความหมายว่า ลดราคา
Can you discount the price?
คุณสามารถลดราคาได้ไหม
I can discount the price for you.
ฉันสามารถลดราคาให้คุณได้
I can't discount the price any more.
ฉันไม่สามารถลดราคาให้คุณได้มากกว่านี้
แต่ส่วนใหญ่แล้ว เราใช้คำนี้ในรูปคำนามที่แปลว่า การลดราคา
I can give you a discount.
ฉันลดราคาให้คุณได้
Can you give me a discount?
คุณลดราคาให้หนูได้ไหม
There's a 50 per cent discount on all clothes.
มีสวนลด 50 เปอรเซ็นต์สำหรับเสื้อผ้าทุกชนิด
อย่าลืมนะครับเอาจำนวนลดราคาไว้หน้า discount เช่น
I can give you a 50 per cent discount.
การลดราคานี้ถือว่าเป็นราคาพิเศษ อย่างที่คนขายชาวไทยชอบพูด
ก็คือ special price เช่น
I can give you special price.
ผมให้ราคาพิเศษคุณได้
This  is a special price.
นี่คือราคาพิเศษ
ครับนี่เป็นคำเบสิก ที่คนขายชาวไทยชอบพูด แล้วได้ผลดีด้วยครับ



8 ม.ค. 2554

เรื่องลดราคา

เริ่มกันเลยครับ 
1.This is on sale.หรือ It's on sale. (ชี้ให้ลูกค้าดูสินค้านั้น แล้วพูดประโยคใด ประโยคหนึ่ง)
   
สินค้าอะไรก็ตามที่ on sale จะหมายถึง สินค้านั้นลดราคา เช่น
(ลูกค้ามองป้าย ON SALE จึงถามพนักงานว่า)
ลูกค้า: What's this?
          นี่อะไรคะ
คุณ:    It's a red belt. It's on sale.
          มันคือเข็มขัดสีแดง มันลดราคาด้วย

คุณสามารถบอกราคา โดยพูดว่า
It's on sale at 100 Baht.หรือ This is on sale at 100 Bath.
สินค้านี่ลดราคาเหลือ 100 บาท

2.We have a sale at the moment.
ประโยคนี้หมายถึง ช่วงนี้เรามีการลดราคา เพราะวลี at the moment หมายถึง ในช่วงเวลานี้
มีคำอื่นๆ ที่ใช้ได้เช่นกันครับเช่น
We have a sale right now.
We have a sale now.
We have a sale going on.
right now, now, going on ทุกคำหมายถึง เดี่ยวนี้, ตอนนี้, ณ บัดนี้

3.We have a sale on underwear.
ใช้รูปประโยค We have a sale on ......แล้วต่อด้วยสิ่งที่เราขายลดราคาอยู่ ดังตัวอย่างนี้
We have a sale on necklaces.
เรามีการลดราคาสร้อยคอ
We have a sale on bakery items.
เรามีการลดราคาขนมปังเบเกอรี่
We have a sale on curtains.
เรามีการลดราคาผ้าม่าน
คุณสามารถเปลี่ยน We have เป็น There is ก็ได้ครับคือ
There is a sale on necklaces.
There is a sale on bakery item. 
There is a sale on curtains. 
จบคำว่า sale ครับ
แต่ผมยังติดค้างท่านผู้อ่าน เรื่อง sold อยู่ครับ
sold คำนี้ใช้เมื่อ ลูกค้าซื้อของโดยจ่ายเงินแล้วแต่ยังไม่ได้มารับ หรือ เรายังไม่ได้ส่งไปที่บ้าน สินค้าจึงยังอยู่ในร้านคุณ ถ้าคุณจะติดป้ายบอกว่า ขายแล้ว ภาษาอังกฤษใช้คำว่า SOLD นั่นเอง
ใช่แล้ครับ คำคุณศัพท์ของคำว่า sell คือ sold ครับ ใช้อธิบายสินค้าที่ขายแล้ว
That table is sold.
โต๊ะนั้นขายแล้ว
แต่ความเป็นจริงฝรั่งคงพูดว่า That table has been sold. ครับ แต่จะพูดว่า That table is sold.ก็ไม่ถือว่าผิดคร้าบ
 I'm sold!
คำว่า I'm sold! เป็นสำนวนที่แปลว่า ชอบ ใช้เมื่อมีใครเสนออะไรก็ตามที่เราชอบ เช่น
Let's go to the park.
เราไปเที่ยวสวนสาธารณะกันดีไหม
I'm sold!
ดี ไปนะ
หรือ
Why don't we catch a movie then have something to eat in Silom?
เอาเป็นว่าเราไปดูหนังแล้วไปหาอะไรกินแถวสีลมดีไหม
I'm sold!
เห็นด้วย! ตกลง
จบครับ สำหรับ sell ,sold ,sale

7 ม.ค. 2554

มาต่อคำว่า sale กันเลยครับ

คำว่า sale เป็นคำนามที่แปลว่า การขาย เราชอบพูดว่า make a sale ซึ่งมีความหมายว่า ทำการขาย
-I made a sale today!
 วันนี้ผมทำการขาย
-We need to make more sales.
 เราต้องทำการขายให้มากกว่านี้   (เจ้านายชอบพูดใช่ป่ะครับ)
-I need one more sale to make my target.
 ผมต้องทำการขายอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ยอดขายถึงเป้า
อะไรที่เราซื้อได้ เรียกว่า for sale เช่น
-This is for sale for/at 200 Baht.
 ของนี้ขายในราคา 200 บาท
-Is this for sale?
 สินค้านี้คุณขายไหม
-I'm sorry. This is not for sale.
 ขอโทษค่ะ ของชิ้นนี้ไม่ขาย
อีกความหมายหนึ่งของคำว่า sale คือ การลดราคา เป็นคำนามเหมือนกันครับ เช่น
-There"s a sale at Central starting today.
 มีการลดราคาที่ห้างเซ็นทรัลเริ่มในวันนี้ 
ถ้าคุณเป็นพนักงานขายคุณสามารถบอกลูกค้าว่า We are having a sale.หรือเรากำลังลดราคาอยู่    ที่สำคัญ อย่าสับสนระหว่างคำว่า sale และ sales    ภาษาอังกฤษนั้นเมื่อพูดถึงการลดราคาเช่น ติดป้ายว่าลดราคาให้ใช้คำว่า sale
แต่คำว่า sales ใช้เมื่อพูดถึงแผนกขายของบริษัทที่เราเรียกว่า Sales Department. หรือเรียกสั้นๆว่า Sales เช่น
I work in the Sales Department.หรือ
I work in sales.
ผมทำงานในแผนกขาย
ย้ำอีกครั้งนะครับ ใช้ sale เมื่อต้องการความหมายว่า ลดราคา แต่ใช้ sales เมื่อต้องการความหมายว่า การขายหรือแผนกการขาย
โพสหน้าไปที่เรื่องลดราคาต่อครับ  ผมมีประโยคที่น่าจะจำไว้ใช้ครับ จะช่วยในการขายของคุณอย่างมาก 
  

6 ม.ค. 2554

จะพูดยังไงกับฝรั่งเรื่องการขาย

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจคำ 3คำ สำหรับขายของให้ฝรั่งต่างชาติกันดีกว่าครับ คำนั้นคือ sell, sale, sold
เริ่มที่คำว่า sell กันก่อนครับ
sell เป็นคำกริยา ความหมายคือ ขาย เช่น
-I sell furniture
 ผมขายเฟอร์นิเจอร์
-What do you sell ?
 คุณขายอะไรบ้าง
-I'll start selling the new edition of the magazine tomorrow.
 ฉันจะเริ่มขายนิตยสารเล่มล่าสุดในวันพรุ่งนี้
 รูปอดีตกาลของคำนี้คือ sold ตัวอย่างคือ
-Yesterday I sold 3 subscriptions.
 เมื่อวานฉันขายการบอกรับเป็นสมาชิกทั้ง 3 ราย
-Last month we sold more products than the month before that.
 เดือนที่แล้วเราขายสินค้าได้มากกว่าเดือนก่อนหน้านี้
-I've sold nothing today.
 วันนี้ฉันไม่ได้ขายอะไรเลย
จากคำว่า sell นี้ เราได้สำนวน sell out ซึ่งหมายถึง ขายจนหมด
-If we keep selling like this, we will sell out by tomorrow.
 ถ้าเราขายดีอย่างนี้ต่อไป เราจะขายหมดภายในวันพรุ่งนี้
แต่เรามักจะใช้ในรูป sold out ครับ เช่น
-I'm sorry. We've sold out.
 ขอโทษครับ เราขายหมดแล้ว
วันนี้ต้องแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวต้องไปขายของละครับ  พรุ่งนี้มาต่อคำว่า sold ครับ